ศาลเจ้าพ่อเสือ สถานที่ขอเลขขอหวยรับโชคเต็ม ๆ เราทุกคนจะต้องเฮง ๆ รวย ๆ งวดนี้ขอพาทุกคนไปส่อง “เลขเด็ด หวยดัง” ที่ “ศาลเจ้าพ่อเสือ” ศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เราไปส่องเรื่องราวของตัวเลขพร้อม ๆ กันพอใกล้วันหวยออก จะมีผู้คนมากมายไม่มีใครนัดหมาย รู้จักกันดีในนามนักเสี่ยงโชค เขาเหล่านั้นจะพร้อมอก พร้อมใจแห่กันไปที่นั่น บรรจงจุดเทียนธูปกราบไหว้ขอโชคลาภเลขเด็ดกัน แม่นแค่ไหน ไม่ยากเลยที่จะพิสูจน์ ท่านสามารถดูจากรูปปั้นเสือที่นำมาแก้บน วางเรียงรายกันตาม 2 ข้างถนน แถมยังมีหนังกลางแปลงมาฉายที่ท้ายตลาดบ่อยครั้งเป็นการการันตี
ท่านผู้ต้องการขอหวยจากเจ้าพ่อเสือบางเขน ขอจงประนมมือทำใจให้เป็น สมาธิ หลับตา บริกรรมภาวนาด้วยใจอันสงบนิ่ง 3 จบว่า “สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ มะหาสัตตานุภาะวนะ สะทา ลาโภ ภะวะตุ เม”
ศาลเจ้าพ่อเสือ ตั้งอยู่เลขที่ 468 ถนนตะนาว ในบบริเวณที่ตัดกับถนนอุนากรรณ ใกล้เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ เป็นศาลเจ้าชาวจีนแต้จิ๋ว (สายลัทธิเต๋า) ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย คนจีนเรียกกันว่า”ตั่วเล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน เฮี้ยงเทียนเซียงตี่ (เหี่ยงเทียงเสี่ยงตี่ ก็เรียก) , รูปเจ้าพ่อเสือ, เจ้าพ่อกวนอู และ เจ้าแม่ทับทิม เป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวไทยและจีนเป็นอย่างมาก
ศาลเจ้าพ่อเสือ มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ปีที่ก่อสร้างตรงกับ พ.ศ. 2377 มีความเกี่ยวเนื่องกับวัดมหรรณพาราม เดิมตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง ได้โปรดให้พระยาโชฎีราชเศรษฐีย้ายศาลมาไว้ที่ทางสามแพร่งถนนตะนาว จนถึงปัจจุบัน
ลักษณะอาคารสร้างตามรูปแบบศาลเจ้าที่นิยมทางภาคใต้ของจีน เทพเจ้าประจำศาลคือ “เสียนเทียนซั่งตี้” หรือที่คนไทยเรียกว่า “เจ้าพ่อเสือ” นั่นเอง เรื่องราวตำนานของเจ้าพ่อเสือที่ชาวบ้านย่านนี้เล่าขานนั้น เชื่อมโยงกับหลวงพ่อพระร่วง วัดมหรรณพารา (วัดมหรรณพ์) ด้วยสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องชาวไทยและชาวจีนในละแวกนี้ที่มีมาช้านาน
“เสือ” เป็นสัตว์ที่คนจีนเชื่อว่ามีฤทธิ์เดชมาก สามารถปราบผีหรือสิ่งเลวร้ายของชีวิตได้ หากบ้านใครตั้งอยู่บริเวณทางสามแพร่ง หรือจุดที่ถือกันว่าจะมีวิญญาณเลวร้ายพุ่งเข้าบ้าน จะนิยมเอาเสือคาบดาบไปแขวนไว้ที่หน้าบ้านเพื่อขจัดสิ่งเลวร้าย เคราะห์ร้ายที่จะมากล้ำกรายชีวิตของเราให้พ้นไปหรือว่าบรรเทาลงได้
เชื่อกันว่าทุก ๆ ปีขาลที่เวียนมาถึงจะเป็นปีที่มีธุรกิจล้มละลายกันมากเป็นประวัติการณ์ บริษัทห้างร้านต่าง ๆ พากันปิดกิจการกันมาก ภาระการค้ามีอุปสรรคมาก อย่างไรก็ตามคัมภีร์โหราศาสตร์จีน บันทึกไว้ว่า “ในปีขาล (เสือ) นี้บุคคลที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของเสือแล้ว กลับจะเป็นปีที่มีความก้าวหน้าอย่างมากมายในขณะที่คนอื่นต้องพบกับชะตากรรมที่ถูกผลักดันให้ตกต่ำ ไม่ได้รับการเอาใจใส่ในช่วงเวลาอันวุ่นวายของปีเสือนี้”ฃ
ปัจจุบันเพื่อความสะดวก ทางคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อเสือ (เสาชิงช้า) ได้อำนวยความสะดวก โดยตั้งจุดขายสิงโตน้ำตาล และเจดีย์น้ำตาล เพื่อลดความแออัดและความชุลมุนวุ่นวาย
ทุกวันนี้มีคนไปไหว้กันมาก เดินแทบไม่ได้แถมยังถูกรมด้วยควันธูปที่คลุ้งกระจายจนแสบตา หลายคนน้ำตานองหน้ากว่าจะเข้าถึงองค์เจ้าพ่อเพื่อให้อาแป๊ะหรือเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าเอาเนื้อหมูสด (ท่านสามารถหาซื้อได้จากแม่ค้ารอบๆศาลเจ้า) ที่ถวายถูที่ปากท่านแล้วพูดว่า “เฮง ๆ” นั่นแหละ…ขอให้เฮง หรือโชคดี สมปรารถนาตลอดปีและตลอดไป ที่สำคัญอย่าลืมเช่า “ฮู้” หรือยันต์เจ้าพ่อเสือที่ศาลเจ้ามาติดไว้ที่บ้านหรือสำนักงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่รอดปลอดภัย ส่วนท่านที่เกิดปีขาล ปีมะเส็ง ปีวอกและปีกุน ขอแนะนำว่าในทุก ๆ ปีขาลที่เวียนมาถึงควรไปไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าพ่อเสือให้ได้ โดยเฉพาะคนปีขาลและปีวอกต้องขอเน้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นปีที่มีอิทธิพลท่านมากจริงๆ และเพื่อความมั่นใจและได้ผลอย่างแน่นอน ควรไหว้ “ไช้ซิ้งเอี๊ย” (เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือเทพเจ้าเงินตรา) ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ชาวจีนที่มีอายุมาก ๆ ตลอดจนซินแสทั้งหลายต่างร่ำรือถึงความศักสิทธิ์ว่า ไช้ซิ้งเอี๊ย องค์ที่อยู่ในศาลเจ้าพ่อเสือ (เสาชิงช้า) ใครดวงไม่ดีแต่อยากรุ่งหรือใครที่มีปัญหาเรื่องเงินทอง ท่านจะช่วยดังนั้นชาวจีนจึงนิยมไปไหว้กันมาก
ศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ ได้เปิดมากว่า 100 ปีแล้ว ซึ่งผู้คนที่พากันมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมากนั้นย่อมเป็นเครื่องยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะต้องถูกย้ายที่มาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่ทำให้ความศรัทธาของผู้คนลดน้อยลงเลย ซึ่งการย้ายมาตำแหน่งล่าสุดนี้ อันเป็นตำแหน่งทางสามแพร่ง ที่เราทราบกันดีว่า เป็นบริเวณที่มีพลังมาก จึงทำให้ศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น โดยศาลแห่งนี้ เป็นสถานที่ไว้เสริมดวงเสริมบารมี สำหรับผู้ที่เกิดปีขาล (ปีเสือ) และสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงสำหรับผู้เกิด ปีวอก นอกจากนี้ยังสามารถขอเรื่อง สุขภาพ ครอบครัว การงานหรือแม้กระทั้งการเรียน นั้นได้สร้างความสำเร็จแก่ผู้คนที่มากราบไหว้
ก่อนจะเข้าไปไหว้ควรซื้อส้ม 3-4 ใบ หรือ 1กิโล และเครื่องเซ่นไหว้เจ้าพ่อเสือ (ซึ่งจะมีหมูสามชั้น ข้าว ไข่ไก่ ) กระดาษเงิน กระดาษทอง ธูป 1 ห่อ เทียน 1 คู่
เดินผ่านประตูกลางของศาลเจ้าเข้าไป นำส้มไปวางบนกระดาษเงินกระดาษทองตั้งไว้หน้าเจ้าพ่อใหญ่ตรงกลางศาล จุดเทียนแดง 2 เล่มก่อนแล้วนำไปปักที่กระถางปักเทียน จากนั้นจุดธูป 30 ดอก หรือ 1 ห่อ อธิษฐานหน้าเจ้าพ่อใหญ่ ( ตั่วเล่าเอี้ย ) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางศาล ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข เมื่ออธิษฐานเสร็จให้ไปไหว้เจ้าพ่อเสือซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือของศาล นำหมูสามชั้น ข้าว ไข่วางบนกระดาษเงิน กระดาษทอง แล้วปักธูปไหว้พร้อมอธิษฐาน ขอให้เจ้าพ่อเสือปกป้องคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และอันตรายใด ๆ ทั้งปวง หรือแม้แต่ขอเรื่องเรียนก็ย่อมได้ (เอาหมูสดที่ถวายไปถูที่ปากท่านแล้วพูดว่า “ เฮง ” ) ต่อจากนั้นให้ไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่ติดกับเจ้าพ่อเสือแล้วเดินไปซ้ายมือสุดของศาลไปไหว้ ไฉ่สิ่งเอี้ย ( เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ) ขอพรต่อจากนั้นให้เดินไปหน้าประตูศาลจะพบกระถางใบใหญ่เป็นกระถางไหว้ฟ้าดินปักธูป 3 ดอก ขอพรให้คุ้มครอง และช่วยเปิด แปดทิศแปดทางให้อธิษฐานสิ่งที่ต้องการธูปที่เหลือให้ปักที่กระถางที่เป็นรูปทหารขี่ม้าที่อยู่ด้านหน้าศาลทั้งซ้ายและขวากระถางละ3 ดอก ขอพลังก่อนกลับควรซื้อน้ำมันเติมตะเกียงซ้ายขวา อธิษฐานขอให้มีแสงสว่างแห่งชีวิตจะทำการงานใด ๆ ก็ขอให้สำเร็จราบรื่นตลอดไป อย่าได้มีอุปสรรคใด ๆ มาขัดขวาง และไปลาส้มที่ถวายไปแบ่งให้ครอบครัวกินเพื่อเป็นสิริมงคล บางท่านอาจเช่าฮู้หรือยันต์เจ้าพ่อเสือไปติดที่บ้าน ที่ทำงาน เพื่อเป็นสิริมงคลปลอดภัย
หากจะบนกับ”ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า” บูชาให้ดี ชีวิตมีแต่รุ่ง เทพเจ้าคุ้มครอง ต้องปฏิบัติดังนี้
วิธีบน : ธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ มาลัย 1 พวง หรือถวายเงินเติมน้ำมันตะเกียง
วิธีแก้บน: แก้ตามคำกล่าว
(โดยดอกไม้ ธูป เทียน และเครื่องสักการะทั้งหลาย หากไม่สะดวกที่จะเตรียมมาเอง ทางศาลเจ้าพ่อเสือ ได้จัดเตรียมเครื่องสักการะบูชาเหล่านี้ไว้สามารถซื้อหาได้ที่นั่น)
อ่านเพิ่มเติม : ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง “เจ้าพ่อหวยคนแรกแห่งสยาม”