ถูกหวย มีความเป็นไปได้น้อยกว่า เสียหวย ไม่นานมานี้ได้มีนักวิจัยที่ชื่อว่า ผศ.อำนาจ วังจีน นักวิชาการด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์ สำนักวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยศรีปทุม นั้นเอง ได้เคยให้ข้อมูลในบทความวิชาการของเขาไว้ว่า คนไทยที่ชอบเสี่ยงโชคด้วยการซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล มักซื้อโดยไม่มีหลักวิชาการเรื่อง “ทฤษฎีความน่าจะเป็น” ทำให้เสียเงินมากกว่าถูกรางวัลนั้นเองครับ
การตัดสินใจซื้อ หวย แต่ละครั้งนั้น นักเสี่ยงดวงมักจะมองที่ผลตอบแทนมากกว่าโอกาสที่เสียเงินนั้นเอง เช่น บางคนชอบเสียเงินซื้อเลขท้าย 3 ตัว บ่อยๆ ด้วยที่ว่าเขามองแค่ผลตอบแทนที่จะได้นั้นสูงกว่าซื้อเลขท้าย 2 ตัว นั้นเองซึ่งในความเป็นจริงแล้วความเสี่ยงของการซื้อเลขท้าย 3 ตัว มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ถูกรางวัล เล่นหวย 2 ตัว ความเสี่ยงน้อยกว่า 3 ตัวมาก
นักคณิตศาสตร์เคยอธิบายไว้อีกว่า หลักทฤษฎีความน่าจะเป็นนั้น คือ โอกาสเกิดขึ้นของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง มีค่าอยู่ระหว่าง 0 – 1 หากใกล้ 0 หมายถึงโอกาสเกิดน้อยนั้นเอง ซึ่งถ้าค่าใกล้ 1 หมายถึงมีโอกาสเกิดสูง การเล่นหวยแต่ละครั้งผลออกมาแค่ ถูก กับ ผิด นั้นเอง
ในส่วนของคำว่าหวยหรือ ลอตเตอรี่ – สลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมายามนานมาก กันเลยทีเดียว และ อีกทั้ง หลาย ๆ คนนั้นก็ได้หวังจะรวยทางลัดผ่านการซื้อหวยกันทั้งนั้น แต่คนไทยหลายๆ คนไม่เคยเช็คเลยว่า โอกาสในการ “ถูกหวย” ในแต่ละงวดนั้นมีมากน้อยแค่ไหน และ จากการที่เราตรวจสอบของประชาชนชาวไทยของเรานั้นก็ได้ พบว่าผู้หญิงเล่นพนันมากกว่าผู้ชายถึง 6 เท่า ซึ่งเยอะมากจริงๆ เลยทีเดียว
ในปัจจุบันคนไทยก็ได้หันมาเล่นหวยกันมากขึ้นและ ในทุกๆเดือน และเราจะได้ลุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาลในทุกวันที่ 1 และ วันที่ 16 ของเดือน และ ในส่วนของการเล่นหวยนั้นก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั้นก็ได้แก่หวยบนดิน และ หวยใต้ดิน นั้นเองซึ่งหวยบนดินก็คือ สลากกินแบ่งรัฐบาลที่เราคุ้นเคยนั่นเอง ที่หลาย ๆ คนที่ชอบเสี่ยงโชคมักจะพยายามตามหาเลขเด็ดด้วยการเดินทางไปยังสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล
ตัวอย่าง 1 การหาผลลัพธ์ว่า x% นั้นเท่ากับเท่าไร
เช่น เราเห็นป้ายเสื้อผ้าลดราคา 25% และเราก็สามารถทราบส่วนลดได้ โดยนำราคาตั้งมาคูณกับเปอร์เซ็นต์ดังต่อไปนี้
ราคาป้ายของเสื้อ 450 บาท มีป้ายลดราคา 25%
ดังนั้น เสื้อตัวนี้นั้นก็มีส่วนลดอยู่ที่ 450 x (25/100) = 112.50 บาท นั้นเองครับ
ตัวอย่าง 2 การที่จะหาว่า x เป็นกี่ % ของ y นั้นเท่ากับเท่าไหร่
อย่างเช่น หากเก็บเงินออม 2,500 บาท จากเงิน 18,000 บาท เราก็สามารถทราบว่าเก็บเงินออมเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ได้นั้นเอง โดยนำเงินออมหารด้วยเงินทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 ดังนี้
เก็บเงินออม 2,500 บาท จากเงินทั้งหมด 18,000 บาทนั้นเอง
ดังนั้น เก็บเงินออม (2,500/18,000)x100 = 13.9%
(ตัวอย่าง 3) การหาจำนวนตั้งต้น
หากถูกหักเงินภาษี 5% ของเงินทั้งหมด จะเป็นจำนวน 500 บาท แล้วเงินตั้งต้นเป็นกี่บาท
กรณีนี้เราสามารถตั้งเป็นบัญญัติไตรยางศ์หรือสมการขึ้นมาได้ โดยสมมุติให้เงินตั้งต้นเป็น X บาท
จะได้ว่า (5/100) x X = 500
ดังนั้น เงินทั้งหมดนั้นก็คือ X = (500×100)/5 = 10,000 บาท นั้นเอง
รางวัลที่ 1 นั้นก็จะมีหนึ่งรางวัล และ โอกาสถูก ก็คือ 1 ในล้าน หรือ 0.0001%
รางวัลที่ 2 นั้นก็จะมีหนึ่งรางวัล และ โอกาสถูก ก็คือ 5 ในล้าน หรือ 0.0005%
รางวัลที่ 3 นั้นก็จะมีหนึ่งรางวัล และ โอกาสถูก ก็คือ 10 ในล้าน หรือ 0.0010%
รางวัลที่ 4 นั้นก็จะมีหนึ่งรางวัล และ โอกาสถูก ก็คือ 50 ในล้าน หรือ 0.0050%
รางวัลที่ 5 นั้นก็จะมีหนึ่งรางวัล และ โอกาสถูก ก็คือ 100 ในล้าน หรือ 0.0100%
รางวัลข้างเคียง นั้นก็จะมีโอกาสถูก ก็คือ 2 ในล้าน หรือ 0.0002%
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว นั้นก็จะมี โอกาสถูก ก็คือ 4000 ในล้าน หรือ 0.4000%
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว นั้นก็จะมี โอกาสถูก ก็คือ 10000 ในล้าน หรือ 1.0000%
ในส่วนของล็อตเตอรี่หนึ่งชุดนั้นก็จะมีทั้งสิน 14,168 รางวัลจากทั้งหมด 1,000,000 เลข
ดังนั้น ซื้อหวยครั้งหนึ่งหนึ่งเลข มีโอกาสถูกรางวัลแค่ 1.4168% เท่านั้นเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือ ถูกหวย มีความเป็นไปได้น้อยกว่า เสียหวย ที่ทาง JC หวยออนไลน์ นั้นได้รวบรวมมาเป็นข้อมูล เพื่อที่จะให้ผู้เล่นหรือเพื่อน ๆ ที่ต้องการนำสิ่งนี้ไปเป็นแนวทางการเล่น เกมสล็อต นั้นได้ศึกษา และ นำไปปรับใช้ ในการเล่นเกมสล็อตครั้ง ต่อ ๆ ไป ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าสิ่งที่ทางเรานำเสนอไป จะเป็นประโยชน์กับการเล่น เกมสล็อต ของท่านไม่มาก็น้อย ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติวเกี่ยวกับหวยออนไลน์ได้ที่ อ่านบทความเพิ่มเติม..