ขอหวยแม่นาคพระโขนงวัดมหาบุศย์ แม่นากพระโขนง หรือมักเรียกสั้น ๆ ว่า แม่นาก (โดยมากสะกดด้วย ค.ควาย) เป็นผีตายทั้งกลมที่เป็นที่รู้จักของไทย เชื่อกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันมีศาลแม่นาคตั้งอยู่ที่วัดมหาบุศย์ ซอยสุขุมวิท 77
แม่นากพระโขนง หรือมักเรียกสั้น ๆ ว่า แม่นาก (โดยมากสะกดด้วย ค.ควาย) เป็นผีตายทั้งกลมที่เป็นที่รู้จักของไทย เชื่อกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันมีศาลแม่นาคตั้งอยู่ที่วัดมหาบุศย์ ซอยสุขุมวิท 77
มีสามีภรรยาหนุ่มสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ด้วยกันที่ย่านพระโขนง สามีชื่อนายมาก ส่วนภรรยาชื่อนางนาก ทั้งสองใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนนางนากตั้งครรภ์อ่อน ๆ นายมากก็มีหมายเรียกให้ไปเป็นทหารประจำการที่บางกอก นางนากจึงต้องอยู่ตามลำพัง
เวลาผ่านไป ท้องของนางนากก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ จนครบกำหนดคลอด หมอตำแยก็มาทำคลอดให้ ทว่าลูกของนางนากไม่ยอมกลับหัว จึงไม่สามารถคลอดออกมาตามธรรมชาติ ยังผลให้นางนากเจ็บปวดเป็นยิ่งนัก และในที่สุดนางนากก็ทานความเจ็บปวดไว้ไม่ไหว สิ้นใจไปพร้อมกับลูกในท้อง กลายเป็นผีตายทั้งกลม
หลังจากนั้น ศพของนางนากได้ถูกนำไปฝังไว้ยังป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์ ส่วนนายมากเมื่อปลดประจำการก็กลับจากบางกอกมายังพระโขนงโดยที่ยังไม่ทราบความว่าเมียของตัวได้หาชีวิตไม่แล้ว นายมากกลับมาถึงในเวลาเข้าไต้เข้าไฟพอดี จึงไม่ได้พบชาวบ้านเลย เนื่องจากบริเวณบ้านของนางนาก หลังจากที่นางนากตายไปก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะกลัวผีนางนากซึ่งต่างก็เชื่อกันว่าวิญญาณของผีตายทั้งกลมนั้นเฮี้ยน และมีความดุร้ายเป็นยิ่งนัก
ครั้นเมื่อนายมากกลับมาอยู่ที่บ้าน ผีนางนากก็คอยพยายามรั้งนายมากให้อยู่ที่บ้านตลอดเวลา ไม่ให้ออกไปพบใคร เพราะเกรงว่านายมากจะรู้ความจริงจากชาวบ้าน นายมากก็เชื่อเมีย เพราะรักเมีย ไม่ว่าใครที่มาพบเจอนายมากจะบอกนายมากอย่างไร นายมากก็ไม่เชื่อว่าเมียตัวเองตายไปแล้ว จนวันหนึ่งขณะที่นางนากตำน้ำพริกอยู่บนบ้าน นางนากทำมะนาวตกลงไปใต้ถุนบ้าน ด้วยความรีบร้อน นางจึงเอื้อมมือยาวลงมาจากร่องบนพื้นเรือนเพื่อเก็บมะนาวที่อยู่ใต้ถุนบ้าน นายมากขณะนั้น บังเอิญผ่านมาเห็นพอดี จึงปักใจเชื่ออย่างเต็มร้อย ว่าเมียตัวเองเป็นผีตามที่ชาวบ้านว่ากัน
นายมากวางแผนหลบหนีผีนางนาก โดยการแอบเจาะตุ่มใส่น้ำให้รั่วแล้วเอาดินอุดไว้ ตกกลางคืนทำทีเป็นไปปลดทุกข์เบา แล้วแกะดินที่อุดตุ่มไว้ให้น้ำไหลออกเหมือนคนปลดทุกข์เบา จากนั้นจึงแอบหนีไป นางนากเมื่อเห็นผิดสังเกตจึงออกมาดู ทำให้รู้ว่าตัวเองโดนหลอก จึงตามนายมากไปทันที นายมากเมื่อเห็นผีนางนากตามมาจึงหนีเข้าไปหลบอยู่ในดงหนาด นางนากไม่สามารถทำอะไรได้เพราะผีกลัวใบหนาด นายมากหนีไปพึ่งพระที่วัด นางนากไม่ลดละพยายาม ด้วยความที่เจ็บใจชาวบ้านที่คอยยุแยงตะแคงรั่วผัวตัวเองอีกประการหนึ่ง ทำให้นางนากออกอาละวาดหลอกหลอนชาวบ้านจนหวาดกลัวกันไปทั้งบาง ซึ่งความเฮี้ยนของนางนาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ถูกฝังไว้ระหว่างต้นตะเคียนคู่นั่นเอง ในที่สุด นางนากก็ถูกหมอผีฝีมือดีจับใส่หม้อถ่วงน้ำ จึงสงบไปได้พักใหญ่
จนกระทั่งตายายคู่หนึ่งที่ไม่รู้เรื่องเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ เก็บหม้อที่ถ่วงนางนากได้ขณะทอดแหจับปลา นางนากจึงถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สยบลงได้ กะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากของนางนากถูกเคาะออกมาทำหัวปั้นเหน่ง เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณ และนำนางนากสู่สุคติ หลังจากนั้น ปั้นเหน่งชิ้นนั้นก็ตกทอดไปยังเจ้าของอื่น ๆ อีกหลายมือ ตำนานรักของนางนาก นับเป็นตำนานรักอีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจผู้ฟังอย่างไม่รู้จบ กับความรักที่มั่นคงของนางนากที่มีต่อสามี ที่แม้แต่ความตายก็มิอาจพรากหัวใจรักของนางไปได้
วัดมหาบุศย์ สร้างประมาณ พ.ศ. 2305 ก่อนเสียกรุงแก่พม่า 5 ปี เดิมชื่อว่า วัดสามบุตร กล่าวคือ บุตรชายสามคนพี่น้องได้ร่วมกันสร้างวัดนี้ สันนิษฐานว่าเสนาสนะในยุคนั้นคงเป็นไม้เสียส่วนใหญ่ ทำให้วัสดุไม่คงทนจนกลายเป็นวัดร้างในที่สุด ต่อมาพระมหาบุตร เปรียญ 5 ประโยค สำนักวัดเลียบได้มาเยี่ยมญาติโยมละแวกคลองพระโขนง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันนิมนต์ให้ท่านอยู่วัดสามบุตรเพื่อช่วยเป็นผู้นำในการบูรณะวัด เมื่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์จึงได้ขนานนามวัดใหม่ว่า วัดมหาบุตร ตามนามท่าน ภายหลังชื่อได้เปลี่ยนมาเป็น “วัดมหาบุศย์” ประชาชนทั่วไปยังขนานนามวัดนี้ว่า วัดแม่นาคพระโขนง ตามอิทธิพลของวรรณกรรมเรื่อง แม่นากพระโขนง
วัดมหาบุศย์ได้รับการบูรณะสังฆเสนาสนะประมาณปี พ.ศ. 2455 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2459 มีเขตวิสุงคามสีมากว้าง 2 เส้น ยาว 2 เส้น 7 วา จนปี พ.ศ. 2470 ได้มีการรื้อถอนอุโบสถเก่าออกแล้วสร้างใหม่ เป็นอุโบสถกว้าง 20 เมตร ยาว 23 เมตร หน้าบันสลักเป็นลายกระหนกไทยรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ หลังคาสองชั้นลด ถึงปี พ.ศ. 2500 ได้ทำการบูรณะอุโบสถนี้ใหม่โดยเปลี่ยนกระเบื้องเป็นกระเบื้องเคลือบสี เปลี่ยนช่อฟ้าใบระกาหงส์และหน้าบันใหม่ทั้งหมด จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นมาเป็นประธานพิธียกช่อฟ้า
เรื่องราวของ นางนาค แห่งพระโขนง มีการเล่าขานกันมานานแล้วและเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า นางนาคมีตัวตนจริงๆ คงเป็นเรื่องเล่าของคนโบราณ ที่เคยถูกผีนางนาคหลอกกันต่อๆมา ความมีชื่อเสียงของแม่นาคได้ทำให้วัดมหาบุศย์ ริมคลองประเวศบุรีรัมย์ แขวงพระโขนง เขตพระโขนง กทม. พลอยเป็นที่รู้จักของคนทั้งหลายด้วย ในฐานะเป็นวัดที่ฝังศพแม่นาค วัดมหาบุศย์นี้ พระศรีสมโภชน์ (พระศรีสมโพธิ) เจ้าคณะวัดสุวรรณฯ เป็นผู้สร้าง ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๒ ในขณะที่ท่านยังเป็นพระมหาบุศย์
วัดมหาบุศย์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดแม่นาคพระโขนง เป็นลำดับต้นๆของแหล่งขอหวย เหตุผลส่วนหนึ่งที่คนนิยมมาขอหวย มาจากชื่อเสียงของแม่นาคพระโขนงที่โด่งดังมานานนับ 100 ปี และบรรยากาศวัดที่ดูขลัง ดั่งมีมนต์สะกดรายล้อมไปด้วยสิ่งลี้ลับ ยากจะบรรยาย แม่นาคพระโขนงได้ดึงดูดนักเสี่ยงโชค หวย จากเที่ยวทุกสารทิศให้มาแสวงหาตัวเลขในทุกงวดอย่างไม่ขาดระยะมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะได้เลขเด็ดกลับไป
สำหรับคนที่มาขอพรหรือบนบาน เรื่องความรัก โชคลาภ ขอบุตร
สำหรับคนที่มาบนบาน เรื่องเกณฑ์ทหาร
สำหรับใครที่ต้องการไปไหว้ศ่าลย่านาคนั้น ศาลย่านาคเปิดให้ไหว้บูชาเวลา 7.30 น. ปิดเวลา 17.30 น. ก่อนวันหวยออก 1 วัน เปิดให้เข้าไหว้ตลอดทั้งคืน สำหรับท่านที่จะบน หรือทำการแก้บนย่านาค ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน ถ้าต้องการถ่ายภาพ โปรดขออนุญาตจากพนักงานของทางศาลย่านาค