การเล่นหุ้นกับการเล่นหวยนั้นต่างกันยังไง บางคนนั้นก็เคยได้ยินว่ามีการเล่นหวยหุ้น ซึ่งก็มีคำว่าหุ้น ก็สงสัยว่าเกี่ยวกับหุ้นอย่างไร และ มีความเสี่ยงต่างกันอย่างไรนั้นเอง การเล่นหุ้น เล่น Forex เล่น Future ต่าง ๆ นั้น ถ้าเพื่อนๆจะคิดง่าย ๆ นั้นก็คือ ใช้แนวทางเก็งกำไรซื้อถูกขายแพงนั้นเอง และเวลาจะซื้อกูดูว่า ราคามันจะขึ้นหรือลง ถ้าราคาขุ้นเราก็จะซื้อ ถ้าราคาลงเราก็จะไม่ซื้อนั้นเอง สมมุติว่าซื้อตอนราคา 50 และ 2 วันต่อมาราคาขึ้นไปที่ 60 ก็ได้กำไร 10 บาทต่อหุ้น หรือ 20% ซึ่งนักเล่นหุ้นจะใช้หลักในการตัดสินว่า หุ้นนี้จะขึ้นหรือจะลง ตามแนวคิดของตนเอง เช่นสายวิเคราะห์ทางเท็คนิค ส่วนมากก็จะใช้ Technical Analysis เช่น Indicator หรือดูลักษณะกราฟว่าหยัก ๆ แบบนี้น่าจะขึ้น
หรือว่า แบบนั้นกราฟน่าจะลงนั้นเอง โดยใช้สถิติมาอ้างอิง หรือ พวกวิเคราห์ด้วยข่าว ก็จะเอาข่าวมาดูกันว่า ค่าเงิน เพิ่มแบบนี้ หุ้นกลุ่มนี้น่าจะสูงขึ้น และกลุ่มนี้น่าจะลดลง หรือถ้ารัฐบาลได้ลดภาษีจะส่งผลให้บริษัทกลุ่มใหนมีกำไรมากขึ้นก็จะไปซื้อหุ้นกลุ่มนั้น เป็นต้น ซึ่งการเล่นหุ้นถือว่าเป็นการเล่นที่ต้องใช้ทักษะ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ดังจะเห็นได้ว่า
คนที่เล่นหุ้นหลาย ๆ คนที่เพื่อนๆได้เห็นในหนังสือ หรือ นิตยาสารการลงทุนล้วนแต่หัวหงอก อายุมากแล้ว เพราะคนพวกนี้ล้วนมีประสบการณ์สูงและเห็นโลกกว่างไกล สามารถ ตีหุ้นได้แตกและเห็นกำไรได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ ในปัจจุบันไม่ต้องใช้เวลาถึงขนาดนั้น เพราะเพื่อน ๆ สามารถศึกษาจากหนังสือต่าง ๆ ส่วนการวิเคราะห์แนวเท็คนิค ก็ใช้เวลาในการฝึกฝนไม่นาน โดยที่เพื่อนๆสามารถฝึกกับบัญชีทดลองใช้ที่ทางเว็บได้เตรียมไว้ให้แล้วได้โดยไม่ต้องเอาเงินตัวเองไปเสี่ยงด้วยละ
คำว่า หวย นั้นยเป็นการพนันโดยผู้เสี่ยงทายนั้นต้องหวยหมายเลขที่ผู้เล่นนั้นต้องการ และ ก็รอการออกของผลรางวัลว่าเพื่อนๆนั้นถูกรางวัลหรือเปล่า และในประเทศไทยแห่งนี้ก็ได้มีหวยแบบถูกกฏหมายและแบบผิดกฏหมายและผิดกฎหมาย เกิดขึ้นราว ๆ ปี พ.ศ. 2375 รัชกาลที่ 3 นั้นเองครับ และยังอยู่ในช่วงขาดแคลน ข้าวยากหมากแพง คนไม่ยอมนำเงินมาใช้ เอาเงินไปฝังไว้ในดินนั่นเองครับ และในเวลาต่อมาได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการตั้งหวย จึงโปรดเกล้า ให้พระศรีไชยบาล หรือ จีนหง ภายหลังเลื่อนยศเป็นพระยาศรีไชยบาล ตั้งโรงหวยขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
หวยในระยะแรกๆนั้นจะเล่นอยู่ในกลุ่มชาวจีนนั้นเอง เรียกว่า และชาวจีน ก็ได้เรียกหวยตัวนี้ว่า ฮวยหวย (花會) ที่แปลได้ว่า ชุมนุมดอกไม้ นั้นเอง เพราะเริ่มแรกๆ ก็จะเขียนตัวหวยเป็นรูปดอกไม้ นั้นเอง และในเวลา ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นชื่อคนจีน โดยทำเป็นแผ่นป้ายเล็ก ๆ จำนวน 34 ป้าย แล้วเขียนชื่อของผู้มีชื่อเสียงในสมัยโบราณเอาไว้บนป้ายนั้นเอง ให้แทงว่าจะออกเป็นชื่อใคร ถ้าทายถูกเจ้ามือจ่าย 30 ต่อหนึ่ง นั้นเอง และในเวลา ต่อมาเมื่อการพนันแพร่ระบาดสู่สังคมไทย จึงได้มีการออกหวยที่เป็นอักษรไทย ของเรา ซึ่งใช้ตัวอักษรทั้งหมด 36 ตัวด้วยกัน จึงได้มีชื่อเรียกว่า หวย ก ข ในช่วยนั้น นั้นเองโดยโรงหวยเป็นของรัฐที่มีเอกชน เป็นผู้ได้รับสัมปทานดำเนินการ ทั้งนี้นายอากรหวย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ขุนบาล หรือ ขุนบาน โดยรายได้จากอากรหวยมีเป็นจำนวนมาก และได้กลายเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐบาลไทยของเรานั้นเอง
สมมุติ เพื่อน ๆ นั้นได้ซื้อสลากที่ราคา 80 บาท และเพื่อนๆมีโอกาสที่จะถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 1% มีความเสี่ยงที่จะไม่ถูก 99% เลยทีเดียว แต่ถ้าเพื่อน ๆ นั้นถูกรางวัลจะได้เงินประมาณ 12.5 เท่าของเงินทุน นั้นเองครับ แต่ถ้าหากเพื่อนๆนั้นได้ถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 3,000,000 บาท เรามีโอกาสถูก 0.0001% มีความเสี่ยงที่จะไม่ถูก 99.9999% นั้นเอง แต่ถ้าถูกรางวัลจะได้เงินประมาณ 37,500 เท่าของเงินทุนนั้นเองครับ
หุ้นนั้นก้คือ ตราสารที่ออกโดยบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือ สหกรณ์ นั้นเองครับ และ เพื่อหาเงินทุน มาขยายบริษัท หรือ ชำระหนี้ โดยบางคนบอกว่าเล่นหุ้นก็เหมือนเล่นพนัน , ไม่แพ้ก็ชนะ , เสี่ยง 50:50 ใช่ครับ
หุ้นก็มีความเสี่ยงเหมือนหวยนั้นแหละครับ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นได้นะ ถ้าเราลงทุนในหุ้นด้วยทัศนคติแบบนั้น แต่ถ้าเราลงทุนหุ้นด้วยทัศนคติอีกแบบล่ะ ลองมองหุ้นเป็นธุรกิจลองดูครับ
นักลงทุนที่มองหุ้นเป็นธุรกิจ นั้น เขาจะเลือกลงทุนในธุรกิจที่น่าสนใจเพียงเท่านั้น ลงเงินไปในธุรกิจนั้น แล้วเติบโตไปกับมัน มีสถานะเป็นเจ้าของบริษัท คล้าย ๆ กับมีทีมงานมาบริหารธุรกิจให้ และ สิ่งที่แตกต่างกันของหุ้นกับหวยคือหุ้นไม่มีวันหมดอายุ นั้นเองครับ
ยกเว้นแต่บริษัทนั้นๆได้ปิดกิจการ หรือ บางท่านอาจจะมองหุ้นเป็นการเก็งกำไรเพียงเท่านั้น จะมีวิธีเก็งกำไร และ วิธีจำกัดความเสี่ยงที่หลากหลายโดยวิธีเก็งกำไรที่นิยมใช้กันนั้นก็คือ การวิเคราะห์ราคาหุ้นในอดีต และ จะเข้าซื้อหุ้นในราคาถูกแล้วขายในราคาที่แพงขึ้นนั้นเองครับ
ในส่วนของวิธีจำจำกัดความเสี่ยงที่นิยมนั้นก็มักจะเป็นการจำกัดเงินที่ยอมเสียได้ ยกตัวอย่างเช่น มีเงินในพอร์ต 1,000 บาท ถ้ายอมเสียได้ 100 บาท ก็คือ 10% นั้นเอง พวกเขาจะจำกัดความเสี่ยงไว้แค่นี้ เท่านั้น ถ้าซื้อแล้วผิดทางหรือซื้อแล้วราคาลง จนเงินติดลบ 100 บาท เขาจะยอมขายหุ้นนั้นออกมาว่ากันง่าย ๆ นั้นเองครับ
นั้นก็คือ ยอมเสียได้ แต่เสียให้น้อย ตรงนี้ก็แล้วแต่ใครจะเลือกหุ้นแบบไหน มีสัญญาณอะไร หรือแนวโน้มราคาเป็นแบบไหน ทั้งหมดอยู่ที่เราเป็นคนกำหนดเองเลยครับ
สรุป
ในปัจจุบันนี้ ตลาดหุ้น นั้นเป็นตลาดที่ เป็นที่รู้จักพอสมควร มีทั้งเก่าหน้าใหม่เข้าออกเยอะ แต่กระนั้นแล้ว หลายๆ คนก็มองว่า การเล่นหุ้น มันก็เหมือนกับการแทงหวย แทงม้า พนันขันต่อ หุ้น เป็นแค่หลักทรัพย์ ซื้อขายกันในตลาดการพนันหรือไม่อยู่ที่คนจะทำให้คล้ายหรือไม่อย่างแนวคิด VI คือแนวคิดหาประโยชน์จากหุ้นถูก กล่าวคือ มูลค่ากิจการนั้นมากกว่า แต่ราคาปัจจุบันถูกกว่าพอสมควร
อย่างงี้เรียกการพนันหรือไม่ ก็ไม่เห็นจะคล้ายยังไง ถึงแม้มีความเสี่ยงก็ยังต่าง แต่ถ้าจะทำให้มันคล้ายก็ได้นะ
และทั้งหมดนี้ก็คือ การเล่นหุ้นกับการเล่นหวยนั้นต่างกันยังไง ที่ทาง JC หวยออนไลน์ นั้นได้รวบรวมมาเป็นข้อมูล เพื่อที่จะให้ผู้เล่นหรือเพื่อน ๆ ที่ต้องการนำสิ่งนี้ไปเป็นแนวทางการเล่น เกมสล็อต นั้นได้ศึกษา และ นำไปปรับใช้ ในการเล่นเกมสล็อตครั้ง ต่อ ๆ ไป ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าสิ่งที่ทางเรานำเสนอไป จะเป็นประโยชน์กับการเล่น เกมสล็อต ของท่านไม่มาก็น้อย ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติวเกี่ยวกับหวยออนไลน์ได้ที่ อ่านบทความเพิ่มเติม…